วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ซูชิ




                                                      ซูชิ ซูชิ





มาทำความรู้จักซูชิกันเถอะ


ซูชินั้น หมายถึง การรวมตัวกันระหว่างข้าวหมักน้ำสมสายชูกับปลาดิบนานาชนิด ซูชิมีวิวัตนาการมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งเกิดจากความต้องการที่จะถนอนอาหารของคนประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ประวัติการทำซูชิจะมีในญี่ปุ่นมาเป็นเวลาช้านาน จนคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าเป็นอาหารดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นแต่เมื่อนักประวัติศาสตร์ ของประเทศญี่ปุ่นสืบค้นหาที่มาของคำว่าซูชิ ก็พบว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นรับเอาวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร ประเภทปลาหมักกับข้าวมาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยและลาว การหมักปลามักจะทำกันอย่างแพร่หลายโดยเกษตกรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งโขง ซึ่งมีอาชีพในการปลูกข้าว และมีข้าวบริโภคกันอย่างอุดมสมบูรณ์ จึงคิดวิธีรับประทาน ข้าวกับปลาหมัก วัฒนธรรมการรับประทานแบบนี้เข้าสู่ญี่ปุ่นโดยผ่านประเทศจีน สมัยก่อน ซูชิของประเทศญี่ปุ่นญี่ปุ่นเป็นปลาหมัก ที่มีเครื่องเคียงเป็นขิงดอง เนื่องจาก ขิงดอง และ วาซาบิ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อโรคในร่างกาย


ต่อไปเรามารู้จักกับซูชิชนิดต่างๆโดยจะเรียงความนิยมของผู้บริโภคส่วนใหญ่




อันดับที่ 8 นาเระซูชิ (Nare Sushi)

นาเระซูชิถือเป็นต้นกำเนิดของซูชิทั้งมวล โดยเป็นการนำปลา ข้าวสวย และเกลือมาหมักจนเกิดข้าวหมักและปลารสเปรี้ยว ซึ่งวิธีการหมักปลาเช่นนี้ ว่ากันว่าได้รับอิทธิพลมาจากอาหารบริเวณลุ่มน้ำโขงเรานี่เอง(ใกล้เคียงกับปลาส้มในประเทศไทยใน) ปัจจุบัน นาเระซูชิที่ยังพบเห็นอยู่ ได้แก่ ฟุนะซูชิ ซึ่งจะใช้ปลาฟุนะหมักกับข้าว แม้จะมีกลิ่นเหม็นมาก แต่ถือเป็นอาหารหรู ราคาแพงไปแล้วในปัจจุบัน




อันดับที่ 7 อินาริ (Inari Sushi)

อินาริซูชิหรือซูชิเต้าหู้หวาน เป็นการนำข้าวซูชิปรุงรสมายัดลงในเต้าหู้ทอดที่มีลักษณะเป็นถุง ชื่ออินารินั้น ตั้งตามชื่อของเทพอินาริในตำนานของญี่ปุ่นที่มีความเชื่อกันว่าโปรดปรานเต้าหู้ทอดเป็นที่สุด



อันดับที่ 6 อชิซูชิ (Oshi Sushi)
ซูชิกดในแบบคันไซ ซึ่งจะนำเอาข้าวซูชิและปลาดิบเรียงลงในกล่องแล้วกดทับให้แน่น หน้าตาโอจิซูชิอาจดูคล้ายกับนิกิริซูชิ แต่จะต่างกันที่กรรมวิธีการทำ ที่จะใช้การกดข้าวให้แน่นแทนการปั้น ซูชิจะมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม เพราะเกิดจากการอัดเป็นแท่งยาวแล้วถูกตัดแบ่งให้เป็นชิ้นพอดีคำ



อันดับที่ 5 เตมากิซูชิ (Temaki Sushi)

ซูชิประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับมากิซูชิ แต่จะต่างกันตรงที่เชฟจะห่อข้าวซูชิและไส้ต่างๆ ด้วยสาหร่าย  กรอบให้เป็นรูปกรวย เพื่อให้ถือรับประทานได้ง่าย เป็นที่มาของคำว่า Temaki (Te แปลว่า มือ) และในภาษาอังกฤษจะเรียกมากิชนิดนี้ว่า Hand Roll หรือซูชิโรลมือถือนั่นเอง

อันดับที่ 4 ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)
ซูชิประเภทนี้ชาวไทยรู้จักกันในนาม “ข้าวหน้าปลาดิบ” แต่อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นปลาดิบก็ได้ หัวใจสำคัญคือการใช้ข้าวซูชิ หรือข้าวสวยคลุกน้ำส้มใส่ชามไว้ แล้วเลือกท้อปปิ้งด้วยเนื้อปลาชนิดต่างๆ หลากหลายประเภทตามแต่พื้นที่ ไข่หวาน อะโวคาโด หรือผักต่างๆ ตามชอบ


อันดับที่ 3 มากิซูชิ (Maki Sushi)

มากิซูชิ หรือ ข้าวปั้นห่อสาหร่ายที่หลายคนติดอกติดใจ หรือเรียกอีกชื่อว่าซูชิโรล ถือเป็นซูชิสไตล์ใหม่จากการเผยแพร่วัฒนธรรมการกินซูชิสู่สหรัฐอเมริกาจนทำให้เกิดการปรับปรุงรูปแบบซูชิให้เข้ากับชาวตะวันตก วิธีการม้วนมากิซูชินั้น จะมีทั้งที่สาหร่ายอยู่ด้านนอกและสาหร่ายอยู่ด้านใน ซูชิโรลที่ฮ็อทฮิตที่สุดหนีไม่พ้นแคลิฟอเนียโรล


อันดับที่ 2 กุงกังซูชิ (Gunkan Sushi)
ซูชิที่ใช้สาหร่ายพันรอบข้าวแล้วโปะหน้าซูชิต่างๆ ไว้ด้านบน กุงกังซูชิเกิดขึ้นจากความต้องการทำซูชิจากวัตถุดิบแบบใหม่ๆ อย่างไข่กุ้ง อิคุระ หรือไข่หอยเม่น ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่เป็นชิ้น ไม่เกาะเป็นก้อน ทำให้ต้องใช้สาหร่ายในการช่วยพยุงเอาไว้ สำหรับคำว่า กุงกัง นั้นหมายถึงเรือรบ เนื่องจากหน้าตาของซูชิแบบนี้ ดูคล้ายเรือรบนั่นเอง


อันดับที่ 1 นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)
ซูชิที่พวกเราคุ้นเคยกันมากที่สุด ใช้ข้าวผสมกับน้ำส้มสายชูปั้นเป็นก้อนรีแล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน อาจป้ายวาซาบิไว้ที่เนื้อปลาเพื่อเพิ่มรสชาติ หัวใจหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับนิกิริซูชิที่ดี ปริมาณข้าว รสชาติข้าว วาซาบิหรือซอสต่างๆ และปริมาณเนื้อปลาต้องสมดุลกัน เพื่อรสชาติที่ ดีที่สุด ถือเป็นศาสตร์การปรุงอาหารที่ต้องฝึกฝนอย่างยาวนาน
                   ต่อไปเรามาดูวิธีทำซูชิอันดับที่ 1 นิริกะซูชิ





จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 

            

1 ความคิดเห็น: